การป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ กรณี “ป่าจี้โมเดล - ท่วมได้แต่ไม่เสียหาย”
.................................
เหตุผล ความจำเป็นหรือความเป็นมาของผลงาน
สืบเนื่องจากปี 2554 ได้เกิดมหาอุทกภัยครั้งร้ายแรงขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย สร้างความเสียหายแก่ชีวิต ทรัพย์สิน บ้านเรือน ไร่นา ร้านค้า ตลอดจนหน่วยงานราชการ วัด และสถานศึกษา ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้โรงเรียนที่อยู่ในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ซึ่งอยู่ในจุดเสี่ยงภัยก็ได้รับผลกระทบดังกล่าวเช่นกัน ได้แก่ โรงเรียนบ้านป่าจี้ โรงเรียนบ้านม่วงสามปี โรงเรียนบ้านแม่กองวะ อำเภอลี้ โรงเรียนบ้านทุ่งหัวช้าง อำเภอทุ่งหัวช้าง และ โรงเรียนวัดวังสะแกง อำเภอเวียงหนองล่อง โดยเฉพาะ โรงเรียนบ้านป่าจี้นั้น เป็นโรงเรียนที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ และมักจะได้รับผลกระทบจากน้ำไหลหลากเป็นประจำ ซึ่งในแต่ละปีมีความเสียหายเกิดขึ้น โดยโรงเรียนและชุมชนได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย ไว้เพียงการยกทรัพย์สินขึ้นในระดับความสูงเดิมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา และไม่ได้เตรียมเครื่องป้องกันเหตุการณ์อุทกภัยไว้เป็นพิเศษ จนกระทั่งเมื่อปี 2554 ได้เกิดวิกฤติขึ้น เมื่อมีปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักและต่อเนื่อง มาตั้งแต่ เดือนเมษายน 2554 และถัดมาในช่วงเดือนพฤษภาคม 2554 จากพายุHaima ส่งผลให้น้ำจากแม่น้ำลี้ทางด้านหลังโรงเรียนไหลเข้าท่วมภายในบริเวณ โรงเรียนอย่างรวดเร็ว โดยมีปริมาณน้ำสูงสุดประมาณ 2.50 เมตร นับเป็นความสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยความเสียหายที่เกิดกับ โรงเรียนบ้านป่าจี้ อย่างซ้ำซ้อนนั้น ได้แก่ อาคารเรียน อาคารประกอบ ตู้เอกสารต่างๆ ชั้นวางหนังสือในห้องสมุด อุปกรณ์การเรียนการสอนและอุปกรณ์โรงครัว คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอที ตลอดจนภูมิทัศน์ของโรงเรียน ทำให้ต้องหยุดการเรียนการสอน เพื่อซ่อมแซมอาคาร และแก้ไขความเสียหายต่างๆ ให้โรงเรียนสามารถกลับมาทำการเรียนการสอนได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีครอบครัวของนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในปี 2554 ด้วย ทั้งนี้นับเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 จะต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
จากความสูญเสียที่เกิดขึ้น ดังกล่าวข้างต้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 จึงตระหนักและเห็นความสำคัญในการป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหา เนื่องจากความเสียหายจากอุทกภัยนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากแต่สามารถเรียนรู้และปรับตัวที่จะดำเนินชีวิตประจำวันให้ปลอดภัยได้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 จึงได้ร่วมกับโรงเรียนบ้านป่าจี้ และชุมชนที่อยู่รายล้อมโรงเรียน จัดทำ โครงการ การป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ กรณี “ป่าจี้โมเดล - ท่วมได้แต่ไม่เสียหาย”
วิธีการดำเนินงานของสพป.ลำพูน เขต 2
ในการดำเนินโครงการดังกล่าว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ได้ดำเนินการดังนี้
1. แต่งตั้งคณะกรรมการเฝ้าระวังการเกิดอุทกภัย ตามคำสั่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ที่ 168/2554 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2554 โดยมีหน้าที่เฝ้าระวัง การเกิดอุทกภัยในพื้นที่ หากเกิดเหตุการณ์ให้รีบดำเนินการรายงานให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ทราบโดยเร่งด่วน
2. จัดทำประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 เรื่อง มาตรการการดำเนินการกรณี ป้องกันและการเกิดอุทกภัย ประกาศ ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2554
3. แจ้งเตือนประกาศดังกล่าวไปยัง โรงเรียนที่อยู่ในจุดเสี่ยงภัย พร้อมทั้งสร้างความตระหนักในเรื่องภัยธรรมชาติ
4. ติดตามการรายงานสถานการณ์การเกิดอุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ โรงเรียนบ้านป่าจี้ ซึ่งได้รับการติดตามการดำเนินการตามมาตรการการดำเนินการกรณี ป้องกันและการเกิดอุทกภัย เป็นกรณีพิเศษ โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินมาตรการของโรงเรียนบ้านป่าจี้ ดังนี้
4.1 เป็นแกนนำหลักในการระดมทางเลือกเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย ร่วมกับ ผู้บริหารโรงเรียน คณะครู ผู้ปกครอง ผู้นำท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาล ซึ่งกำหนดทางเลือก ได้เป็น 2 แนวทาง ได้แก่
(1) ดำเนินการตามนโยบายโรงเรียน ขนาดเล็ก โดยจะทำการรวมกับ โรงเรียน บ้านดงสักงาม
(2) จัดทำมาตรการตั้งรับและดำเนินการเชิงรุก
ทั้งนี้ในที่ประชุมดังกล่าว ได้เลือกแนวทาง ที่ (2) คือการดำเนินมาตรการตั้งรับและดำเนินการเชิงรุก เพราะผู้ปกครองไม่ต้องการให้มีการรวมโรงเรียน เนื่องจากเห็นว่าโรงเรียนจะตกอยู่ในสภาพทิ้งร้าง ดังนั้นจึงได้ดำเนินมาตรการตั้งรับและดำเนินการเชิงรุก ดังนี้
4.1.1 ด้านบุคลากร
(1) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้บริหารโรงเรียนเห็นความสำคัญในการป้องกันภัยจากน้ำท่วม และไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต และทรัพย์สิน ทั้งส่วนตัวและราชการ
(2) ผู้บริหารโรงเรียน ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ตลอดจนชุมชน ร่วมมือกันป้องกัน และแก้ไขปัญหา ตามแนวทางและมาตรการที่กำหนดอย่างเข้มแข็ง
4.1.2 ด้านอาคารสถานที่
(1) จัดทำรั้วรอบบริเวณโรงเรียนทุกด้านเพื่อเป็นด่านแรกในการป้องกันน้ำ
(2) จัดทำพนังกั้นน้ำบริเวณใต้ถุนอาคารเรียน
(3) ประสานองค์การบริหารส่วนตำบลป่าไผ่ เพื่อทำการขุดร่องน้ำด้านหน้า โรงเรียนและจัดทำเป็น flood way ไปสู่ด้านข้างโรงเรียน และลงสู่แม่น้ำลี้ต่อไป
4.1.3 ด้านวัสดุครุภัณฑ์
(1) ทำการเคลื่อนย้ายวัสดุที่เคลื่อนย้ายได้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เอกสารต่างๆ ขึ้น บนอาคารชั้น 2
(2) ย้ายที่ตั้งของห้องสมุด และห้องคอมพิวเตอร์ไปประจำการบนอาคารชั้น 2 เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย
(3) จัดทำชั้นวางของติดผนังในอาคารชั้น 1 เพื่อจัดเก็บสิ่งของไว้บนที่สูง
4.1.4 ด้านการประสานงาน
(1) ประสานงานกับผู้ปกครอง และชาวบ้านในชุมชนรายล้อมโรงเรียน เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการเฝ้าระวังภัยพิบัติ รวมถึงขอความร่วมมือในการปรับปรุงอาคารสถานที่เพื่อพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม การเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง และการฟื้นฟูทำความสะอาดโรงเรียนหลังเกิดน้ำท่วม
(2) ประสานงานกับ องค์การบริหารส่วนตำบลป่าไผ่ เพื่อติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวังการเปิด-ปิด ฝายทดน้ำ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับ รถ เจ้าหน้าที่ กระสอบทราย ในการเผชิญสถานการณ์อุทกภัยทุกเวลา
5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ดำเนินการประสานงาน เพื่อขอความร่วมมือในการดำเนินการมาตรการตั้งรับและดำเนินการเชิงรุกดังกล่าว ให้สามารถดำเนินการเตรียมความพร้อมได้สำเร็จ
ผลสำเร็จที่ได้รับจากงานจนเกิดความภาคภูมิใจ
จากการผลักดันโครงการ การป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ กรณี “ป่าจี้โมเดล - ท่วมได้แต่ไม่เสียหาย” ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 นั้นได้รับผลสำเร็จจนเกิดเป็นความภาคภูมิใจ ดังนี้
1. โรงเรียนบ้านป่าจี้ สามารถเตรียมความพร้อมตามมาตรการตั้งรับและดำเนินการเชิงรุก ได้สำเร็จ จนกระทั่งใน เดือนตุลาคม 2554 ที่เกิดเหตุการณ์พายุNesat เข้าโจมตีประเทศไทย โรงเรียนบ้านป่าจี้ เกิดน้ำท่วมขังภายในบริเวณเพียงเล็กน้อย และไม่ได้รับความเสียหายรุนแรงเท่าเมื่อครั้งที่เกิดเหตุอุทกภัย เมื่อเดือน พฤษภาคม ในปีเดียวกัน อีกทั้ง โรงเรียนบ้านป่าจี้ ยังสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสโดย การปรับปรุงความพร้อมด้านอาคารสถานที่เพื่อเผชิญเหตุการณ์อุทกภัย จนได้รับรางวัลส้วมสุขสันต์ ประจำปีการศึกษา 2554 อีกทั้งยังมีขวัญกำลังใจที่ดีขึ้นจนสามารถพัฒนางานด้านวิชาการจน โรงเรียนได้รับรางวัล รักการอ่าน ประจำปีการศึกษา 2554 อีกด้วย จึงถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับโรงเรียนอื่นๆ ได้เห็นถึงความพยายามและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคในการทำงานและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
2. บุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ผู้บริหารโรงเรียน คณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้นำชุมชน และชาวบ้านในชุมชนที่อยู่รายล้อมโรงเรียน เกิดการเรียนรู้ในการรับมือกับสถานการณ์อุทกภัย เกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญของการป้องกัน บรรเทาภัยธรรมชาติ และมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย เป็นการสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์ไปพร้อมกับการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ
3. บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เกิดการเรียนรู้ การทำงานอย่างมีส่วนร่วม การวางแผน และประสานงานกันเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างเป็นระบบ เช่น หลังจากที่เกิดเหตุการณ์อุทกภัยขึ้นซ้ำในเดือนตุลาคม ปี 2554 นั้น โรงเรียนบ้านป่าจี้มีปริมาณน้ำท่วมขังเพียงเล็กน้อยก็จริง แต่เนื่องจากสภาพของดินมี การอุ้มน้ำเป็นจำนวนมากมาเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้การระบายน้ำออกจากบริเวณโรงเรียนทำได้ยากและมีความล่าช้า ทางองค์การบริหารส่วนตำบลป่าไผ่ จึงเร่งประสานขอยืมเครื่องสูบน้ำจากเทศบาลตำบลวังดิน เพื่อมาระดมสูบน้ำออกจากโรงเรียนและช่วยทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้กับโรงเรียน จนโรงเรียน กลับมามีสภาพ “น่าอยู่น่าเรียน” เช่นเดิม ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่า โรงเรียนบ้านป่าจี้ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง จนสามารถเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภัยพิบัติด้านอื่นๆ ได้แก่ แผ่นดินไหว ดินโคลนถล่ม วาตภัย และอัคคีภัยได้
4. ผลจากการดำเนินงานตามโมเดลดังกล่าว เป็นการประหยัดงบประมาณของราชการ และลดภาระการระดมทุนจากภายนอกได้เป็นอย่างมาก จึงถือได้ว่า “ป่าจี้โมเดล” เป็นการประพฤติปฏิบัติของบุคลากรเยี่ยงวิญญูชนโดยแท้ ควรแก่ความภาคภูมิใจและยกย่อง
กลุ่มอำนวยการ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต ๒
ผู้เขียน : ดวงกมล ดวงสุภา
หน่วยงาน : สพป.ลำพูน เขต 2
ศุกร์ ที่ 19 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2555
เข้าชม : 24936