รายงานการพัฒนาครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PCRCAS มีวัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อรายงานผลการพัฒนาครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PDRCAS วัตถุประสงค์เฉพาะ เพื่อศึกษาผลการพัฒนาครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PDRCAS เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อปัจจัยส่งเสริมสนับสนุนและปัญหาอุปสรรค ในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อการพัฒนาครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PDRCAS ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ ครูผู้สอนระดับครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษาที่ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ จำนวน 82 คน เครื่องมือที่ใช้ในการนิเทศแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ หลักสูตรฝึกอบรมและเอกสารประกอบการอบรมการพัฒนาครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบก่อนและหลังการอบรมเชิงปฏิบัติการ แบบสอบถามครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ และแบบสอบถามความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อการนิเทศการพัฒนาครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PDRCAS การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการวิเคราะห์การพัฒนาครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
1.1 ผลการทดสอบความรู้ของครูผู้สอน ก่อนการอบรมได้คะแนนเฉลี่ย 22.87 จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 5.39 คะแนนเฉลี่ย หลังการอบรมได้คะแนนเฉลี่ย 33.26 จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.86 เมื่อเปรียบเทียบความก้าวหน้า หลังการอบรม มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น 10.40 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 26.00
1.2 การนำสาระและองค์ความรู้ที่ได้จากการอบรมไปใช้ในการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
1.3 ผลการออกแบบการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนของครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก
1.4 ครูผู้สอนที่เปลี่ยนแปลงการจัดการเรียนรู้ หลังการอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย 5 ลำดับแรก ได้แก่ ออกแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยตามขั้นตอนกระบวนการสอน BBL (5 ขั้นตอน) ครูผู้สอนและนักเรียนร่วมกันผลิตสื่อที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่านการเขียน (ร้อยละ 89.02) ใช้สื่อ GO (Graphic Organizers) เพื่อสรุปองค์ความรู้ จัดการเรียนรู้โดยการปฏิบัติ Active Learning และให้นักเรียนนำเสนอผลงานในชั้นเรียน
1.5 ความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียนหลังครูผู้สอนจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ สามารถอ่านเรื่องและสรุปใจความสำคัญได้ ใช้สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง สามารถเขียนสื่อความตามระดับชั้นที่ตนเองเรียนได้ สามารถคิดพิจารณาอย่างรอบครอบโดยใช้เหตุผล ประกอบการตัดสินใจ และสามารถอ่านวิเคราะห์และตีความได้
2. ผลการศึกษาความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อปัจจัยส่งเสริมสนับสนุนและปัญหาอุปสรรคในการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
ความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อปัจจัยส่งเสริมสนับสนุน ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ ผู้บริหารให้การส่งเสริม/สนับสนุนการจัดการเรียนการสอน ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐาน การสนับสนุนด้านงบประมาณในด้านการจัดซื้อจัดหาสื่อและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอน ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูผู้สอนเข้ารับการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจและสามารถจัดการเรียนการสอนตามกระบวนการ BBL และมีสนามเด็กเล่น ปรับเปลี่ยนห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้
ความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อปัญหาอุปสรรคในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดย ใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ ภาระงานของครูมีมากทำให้ไม่สามารถเตรียมสื่อและอุปกรณ์ในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนได้อย่างเต็มที่ งบประมาณสนับสนุนด้านการผลิตสื่อ นวัตกรรมไม่เพียงพอ ครูผู้สอนขาดความชำนาญในการสร้างสื่อการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ครูขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้ใบงานและแบบฝึกหัดตามกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบ BBL และไม่ศึกษาเนื้อหาวิชา/บทเรียนก่อนการจัดการเรียนการสอน
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อการนิเทศครูผู้สอนที่มีต่อการนิเทศครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ด้วยกระบวนการนิเทศแบบ PDRCAS โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด