การพัฒนาและยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567  มีการดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำ

ทุกปี  โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษาในด้านต่าง ๆ ให้สามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ ทันสมัย และสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาและประเทศโดยรวม  เพราะครูถือเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ เพราะเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ ปลูกฝังคุณธรรม และพัฒนาทักษะชีวิตให้กับผู้เรียน การเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งผลให้บทบาทของครูต้องปรับตัวจากการเป็นผู้สอนเพียงอย่างเดียว ไปสู่ครูผู้ที่สามารถส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนอย่างรอบด้าน จึงมีความจำเป็นที่ครูต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านความรู้ ความสามารถ ทักษะ

ที่จำเป็น รวมถึงสมรรถนะวิชาชีพครู การพัฒนาครูอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ จึงเป็นแนวทางสำคัญ

ในการยกระดับคุณภาพการศึกษา ดังนั้น เมื่อครูเป็นบุคคลสำคัญในการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพ

ของผู้เรียน ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้เสริมสร้างคุณธรรม และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน 

ในกระบวนการจัดการศึกษาทั้งระบบ การมีครูที่มีคุณภาพทั้งด้านวิชาชีพและคุณธรรมจริยธรรม ย่อมส่งผลต่อความสำเร็จของการจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ  เพราะฉะนั้น การส่งเสริมและยกย่องเชิดชูเกียรติครู

จึงเป็นกลไกที่สำคัญในการสนับสนุนให้ครูมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน เกิดความภาคภูมิใจในวิชาชีพ รักษามาตรฐานคุณภาพ และเป็นพลังในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเชิงบวก ส่งเสริมให้บุคลากรเห็นความสำคัญของคุณธรรม ความเสียสละ และการเป็นแบบอย่างที่ดี

ในสังคม และเพื่อยืนยันได้ว่า “คนดีต้องได้รับการยกย่อง” และกระตุ้นให้เกิดพลังบวกในการพัฒนาตนเองและองค์กรอย่างยั่งยืน

ที่ดำเนินการสำเร็จ บรรลุตามวัตถุประสงค์แล้ว  ดังนี้

1. การพัฒนาสมรรถนะรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ได้รับการบรรจุ

    และแต่งตั้งใหม่ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 รุ่นที่ 1 

2. การพัฒนาสมรรถนะรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ได้รับการบรรจุ

    และแต่งตั้งใหม่ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 รุ่นที่ 2

3. การพัฒนาสมรรถนะรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ได้รับการบรรจุ

    และแต่งตั้งใหม่ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 รุ่นที่ 3

4. การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

    ที่ปฏิบัติงานใน สพป.ลำพูน เขต 2

5. การประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษา ตำแหน่งรองผู้อำนวยการ

    สถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

    ระยะเวลา 1 ปี ครั้งที่ 1 (6 เดือน) 

6. การอบรมพัฒนาการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 

    (Active Learning) ของผู้บริหารสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2  

7. การพัฒนาเสริมสร้างความรู้ทางด้านคุณธรรม จริยธรรม และการพัฒนาเสริมสร้างสมรรถนะครูผู้ช่วย

    สู่การเป็นครูมืออาชีพ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ประจำปี

    งบประมาณ พ.ศ. 2567

8. การอบรมเชิงปฏิบัติการ การบำรุง รักษาและการตรวจซ่อมอุปกรณ์เครื่องยนต์เล็กที่ใช้สำหรับ

    การปฏิบัติงานในหน้าที่ของลูกจ้างประจำและผู้ปฏิบัติงานให้ราชการตำแหน่งนักการภารโรง 

    สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2

1. การประกวดรางวัลบุคคลผู้ปฏิบัติงานที่ทำคุณประโยชน์ทางด้านการศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่

การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ประจำปี 2567

2. การยกย่องเชิดชูเกียรติ “ครูอาวุโส” ผู้ปฏิบัติงานดีเด่นที่ประสพผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ เกษียณอายุ

ราชการ ประจำปี 2567

ขั้นที่ 1: วางแผนและออกแบบโครงการ

1. ศึกษานโยบายจากหน่วยงานต้นสังกัด เช่น นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายของ สพฐ. 

และนโยบายและจุดเน้นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2

2. วิเคราะห์ความต้องการพัฒนาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด

3. ออกแบบโครงการให้ครอบคลุม 2 ด้าน คือ ด้านการพัฒนา และด้านการยกย่องเชิดชูเกียรติ

ขั้นที่ 2 : ดำเนินกิจกรรมพัฒนาครู

1. วางแผนการจัดกิจกรรมอบรม/พัฒนา 

2. ดำเนินการจัดอบรมหรือกิจกรรมพัฒนาตามแผน

3. ติดตามผลและประเมินผลหลังอบรม

ขั้นที่ 3 : ดำเนินกิจกรรมยกย่องเชิดชูเกียรติ

1. วางแนวทางการประกวดผู้ทำคุณประโยชน์ทางด้านการศึกษา 

2. คัดเลือกและประเมินคุณสมบัติตามเกณฑ์

3. ประกาศผลและเตรียมพิธีมอบรางวัล/เชิดชูเกียรติ 

ขั้นที่ 4 : จัดกิจกรรมเผยแพร่และเชิดชูเกียรติ

1. จัดพิธีมอบรางวัล / พิธียกย่องเชิดชูเกียรติ  : มอบเกียรติบัตร/โล่รางวัล

2. เผยแพร่ผ่านสื่อ เช่น เว็บไซต์ เขตพื้นที่ฯ หรือสื่อโซเชียล

ขั้นที่ 5 : สรุปผลและประเมินผลโครงการ

1. ประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมอบรมและผู้ได้รับรางวัล

2. วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ของโครงการในภาพรวม

3. จัดทำรายงานผลโครงการเพื่อพัฒนาในปีถัดไป

1. รองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 8 คน และผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 23 คน  รวม 3 รุ่น   

    เข้ารับการพัฒนาสมรรถนะรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ได้รับการบรรจุ

    และแต่งตั้งใหม่ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 

2. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 79 คน เข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนา

    ทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 

3. รองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 20 คน ได้รับการประเมินสัมฤทธิผล

    การปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษาฯ ระยะเวลา 1 ปี ครั้งที่ 1 (6 เดือน)

4. ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 59 คน ได้เข้าร่วมการอบรมพัฒนาการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนา

    งาน (PA) เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของผู้บริหารสถานศึกษา สำนักงาน

    เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2  

5. ครูผู้ช่วย  จำนวน 56 คน เข้ารับการการพัฒนาเสริมสร้างความรู้ทางด้านคุณธรรม จริยธรรม และการ

    พัฒนาเสริมสร้างสมรรถนะครูผู้ช่วยสู่การเป็นครูมืออาชีพ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

    ประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

6. ลูกจ้างประจำ และผู้ปฏิบัติงานให้ราชการตำแหน่งนักการภารโรง จำนวน 80 คน เข้ารับการอบรม

   เชิงปฏิบัติการ  การบำรุง รักษาและการตรวจซ่อมอุปกรณ์เครื่องยนต์เล็กที่ใช้สำหรับการปฏิบัติงาน

   ในหน้าที่ของลูกจ้างประจำและผู้ปฏิบัติงานให้ราชการตำแหน่งนักการภารโรง สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่   

    การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2

    

1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น

    ตามเป้าหมายการอบรม

2. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจในกระบวนการพัฒนาและการประเมิน 

    (ระดับความพึงพอใจเฉลี่ยมากกว่า 4.00 จาก 5.00)

3. บุคลากรที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ มีความภาคภูมิใจและเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่เพื่อนร่วมวิชาชีพ

    เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดี (Best Practices) และมีการนำไปปรับใช้ในสถานศึกษาต่าง ๆ 

    ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความเป็นครู

 

การนำไปใช้ประโยชน์

1. หน่วยงานสามารถใช้ข้อมูลจากกิจกรรมพัฒนาและการประเมินผล เพื่อกำหนดแนวทาง

การพัฒนาศักยภาพของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ตรงกับความต้องการจำเป็น

ของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

2. ผลการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ฯ ถูกนำไปใช้ประกอบการพิจารณา

บรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอย่างมั่นคง เช่น ครูผู้ช่วย/ผู้บริหารสถานศึกษา

3. แบบอย่างของผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ถูกนำเสนอเป็นแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practices) แก่บุคลากรในเขตพื้นที่ ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเวทีเผยแพร่ผลงาน

4. แนวทางการดำเนินกิจกรรมเชิดชูเกียรติ สามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบให้กับสถานศึกษา 

หรือหน่วยงานอื่นในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมองค์กร

 

ความยุ่งยากและซับซ้อนในการดำเนินการ

1. ต้องวางแผนและออกแบบกิจกรรมให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย

ได้แก่ ครูผู้ช่วย ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความต้องการในการพัฒนาแตกต่างกัน จึงต้องออกแบบหลักสูตร/กิจกรรมให้เหมาะสม

2. การประสานงานกับหน่วยงานและวิทยากรหลายฝ่ายต้องประสานงานกับสถานศึกษา วิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนกรรมการประเมินจากภายนอก ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาและความรอบคอบ

ในการนัดหมาย กำหนดการ และเอกสารประกอบต่าง ๆ

3. ความซับซ้อนของการดำเนินการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงาน เช่น การประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษา ต้องอาศัยองค์ความรู้ด้านหลักเกณฑ์ของ ก.ค.ศ. และต้องจัดกรรมการประเมินที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนด

4. ข้อจำกัดด้านงบประมาณและเวลาปฏิบัติงานกิจกรรมบางประเภทต้องใช้งบประมาณและทรัพยากรจำนวนมาก เช่น งานยกย่องเชิดชูเกียรติ หรือการอบรมแบบเข้ม จึงต้องบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

5. ต้องดำเนินงานตามกรอบระยะเวลาและนโยบายของส่วนกลาง เช่น ต้องสรุปผลการพัฒนา หรือจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติภายในกรอบปีงบประมาณที่กำหนด ซึ่งหากมีปัจจัยแทรกซ้อน (เช่น ปรับเปลี่ยนนโยบายกะทันหัน) อาจส่งผลกระทบต่อแผนงานได้

6. การจัดทำรายงานผลการดำเนินงานและรายงานประเมินผลต้องมีการเก็บข้อมูลและหลักฐานต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ 

1. ข้อจำกัดด้านงบประมาณ งบประมาณที่ได้รับอาจไม่เพียงพอต่อการดำเนินกิจกรรม

ที่มีคุณภาพ หรือกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ทำให้ต้องลดขนาดกิจกรรมหรือปรับรูปแบบให้น้อยลงจากแผนเดิม

2. ภาระงานของบุคลากรในพื้นที่ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมักมีภาระงานอื่นจำนวนมาก ส่งผลให้บางรายไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ครบถ้วนหรือต่อเนื่อง

3. ความเข้าใจไม่ตรงกันเกี่ยวกับหลักเกณฑ์/แนวทางการประเมิน ในกิจกรรมประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ฯ มักพบปัญหาความเข้าใจไม่ตรงกันระหว่างผู้รับการประเมิน ผู้ประเมิน และสถานศึกษา โดยเฉพาะในส่วนของเอกสาร หลักฐาน และเกณฑ์การตัดสิน

4. การประสานงานระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย การดำเนินงานบางส่วน เช่น การคัดเลือกบุคคลดีเด่น การแต่งตั้งคณะกรรมการ หรือการเชิญวิทยากร ต้องอาศัยการประสานงานจากหลายภาคส่วน ซึ่งอาจล่าช้าหรือคลาดเคลื่อนได้

5. ข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่  การจัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกิจกรรมเชิงปฏิบัติการหรือการจัดงานยกย่องเชิดชูเกียรติ ต้องใช้เวลาในการเตรียมการมาก หากสถานที่ไม่เพียงพอหรือช่วงเวลาไม่เหมาะสมจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของกิจกรรม

6. การติดตามและประเมินผลภายหลังการพัฒนา หลังจากจัดกิจกรรมอบรมหรือพัฒนาแล้ว การติดตามผลในระยะยาวยังมีข้อจำกัด เช่น ขาดระบบวัดผลความเปลี่ยนแปลงของผู้เข้าร่วมอย่างเป็นรูปธรรม

1. ควรจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถออกแบบกิจกรรมที่มีคุณภาพ ตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และลดข้อจำกัดในการดำเนินการ ซึ่งในบางครั้งกำหนดกิจกรรมในแผนไว้แล้ว แต่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ จึงทำให้ต้องปรับเปลี่ยนกิจกรรม ลดกิจกรรม 

และตัดบางกิจกรรมออก 

2. พัฒนาเครื่องมือและระบบประเมินผลอย่างเป็นระบบ เช่น ระบบติดตามผลการพัฒนา

หลังการอบรม หรือระบบประเมินสัมฤทธิผลฯ ที่เป็นการประเมินเชิงประจักษ์ ไม่เน้นการจัดทำเอกสาร

3. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอย่างใกล้ชิด ทั้งภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ระหว่างสถานศึกษา และหน่วยงานภายนอก เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมมีประสิทธิภาพและลดปัญหาการประสานงาน

4. ควรจัดกิจกรรมในลักษณะบูรณาการหลายกลุ่มเป้าหมาย เช่น การอบรมร่วมกันของผู้บริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการที่ปรึกษา/พี่เลี้ยง เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และลดความซ้ำซ้อน

5. พัฒนาและเผยแพร่แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) จากผู้ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เพื่อเป็นต้นแบบให้แก่หน่วยงานและสถานศึกษาอื่นๆ

6. ควรส่งเสริมให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือโรงเรียนจัดกิจกรรมยกย่องเชิดชูเกียรติในระดับสถานศึกษา  เพื่อให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นและสร้างแรงจูงใจจากระดับฐานราก

7. การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและการยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ควรส่งเสริมให้มีการนำใช้เทคโนโลยีมาใช้ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง

ในยุคดิจิทัล